📌 บทนำ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์ (Chronic Myeloid Leukemia: CML)
เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม จนนำไปสู่การสร้างเม็ดเลือดขาวผิดปกติจำนวนมาก ในบทความนี้จะไม่กล่าวถึงพยาธิสภาพอีก เพราะเคยอธิบายไว้แล้วในบทความก่อนหน้านี้ ท่านสามารถย้อนอ่านได้ค่ะ
🔙 ก่อนปี 2544: ยังคงเป็น “โรคร้ายแรง”
- ก่อนปี พ.ศ. 2544 ผู้ป่วย CML ไม่มีวิธีรักษาที่หายขาดได้
- อายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-8 ปี
- เป็นโรคที่ถือว่า lethal disease — ร้ายแรงถึงชีวิต
🔬 จุดเปลี่ยนสำคัญ: ยา Targeted Therapy
- ในปี 2544 มีการพัฒนายารักษาเฉพาะที่ (Targeted Therapy)
- ยาชนิดใหม่สามารถควบคุมโรค CML ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- จากโรคร้ายแรง → กลายเป็น “โรคเรื้อรัง” เหมือนเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง
- ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตปกติได้ หากมี วินัยในการทานยา
- ยานี้ถูกขนานนามว่าเป็น “Magic Bullet” และได้ขึ้นปกนิตยสาร Time Magazine
💊 ยากลุ่ม TKIs (Tyrosine Kinase Inhibitors)
1️⃣ First Generation TKI: อิมาทินิบ (Imatinib)
- ยาตัวแรกในกลุ่ม TKIs
- เดิมชื่อการค้าว่า Glivec
- ราคาเมื่อออกใหม่ประมาณ 1.2 ล้านบาท/ปี
- ข้าราชการสามารถเบิกได้ แต่ต้องสำรองจ่ายก่อน
- จึงมีการตั้ง “กองทุนยืมเงิน” ผ่านมูลนิธิรามาธิบดี
- ผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทองและประกันสังคม ไม่สามารถเบิกได้
🌍 โครงการ GIPAP ช่วยชีวิต
- ดำเนินการผลักดันจนเกิดโครงการ GIPAP (Glivec International Patients Assistance Program)
- ทำให้ผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทองได้รับยาฟรี
- แต่สิทธิ์ประกันสังคมยังไม่สามารถเข้าถึง
⚖️ ข้อเสนอเพื่อสิทธิ์ประกันสังคม (ปกส)
- เสนอให้ใช้สิทธิ์ค่ารักษาปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (750,000 บาท) ไปซื้อยา
- หากทำได้ บริษัทและ GIPAP จะบริจาคยาให้ต่อ
- แต่ประกันสังคม ปฏิเสธ
- ในที่สุด หลังต่อสู้หลายปี จึงยอมเบิกยาในปี 2555 (หลังจากเข้าบัญชียาในปี 2551)
2️⃣ Second Generation TKIs:
เมื่ออิมาทินิบไม่ได้ผล จำเป็นต้องใช้ยา “รุ่นที่ 2” ได้แก่:
2.1 นิโลทินิบ (Nilotinib)
- ชื่อการค้า: Tasigna
- ใช้ในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่ออิมาทินิบ
- เดิมมีเฉพาะข้าราชการที่เข้าถึง
- สิทธิ์บัตรทองได้ผ่าน T-PAP (Tasigna Patient Assistance Program)
- สิทธิ์ประกันสังคม ยังเข้าไม่ถึง ต้องอาศัยการช่วยเป็นรายบุคคล
2.2 ดาซาทินิบ (Dasatinib)
- ชื่อการค้า: Sprycel
- ผู้ป่วยบางรายตอบสนองต่อดาซาทินิบเท่านั้น
- จำเป็นต้อง ผลักดันให้ทั้ง 2 ตัวเข้า “บัญชียาหลักแห่งชาติ”
- จนในที่สุด ยาทั้ง 2 ตัวก็ได้รับการขึ้นบัญชี และทุกสิทธิ์สามารถเบิกได้
3️⃣ Third Generation TKI: โพนาทินิบ (Ponatinib)
- ใช้กรณีมีการกลายพันธุ์ชนิด T315I หรือไม่ตอบสนองต่อ TKIs ทั้ง 3 ตัวก่อนหน้า
- ได้รับบริจาคผ่าน มูลนิธิ Max Foundation
- ปัจจุบัน เบิกได้เฉพาะสิทธิ์ ข้าราชการ
- ผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทอง / ประกันสังคม ยังไม่สามารถเบิกได้
4️⃣ ยาใหม่ล่าสุด: Asciminib
- เป็นยาในกลุ่มใหม่ Allosteric Inhibitor (STAMP)
- ใช้ในผู้ป่วยที่ TKI ทั้ง 3 ตัวแรกไม่ได้ผล รวมถึงกลายพันธุ์ T315I
- ยังไม่วางจำหน่ายในประเทศไทย
- คาดว่าจะเข้ามาภายใน 2-3 ปี
❗ ปัจจัยที่ทำให้การรักษา “ไม่ได้ผล”
- วินัยในการทานยาไม่สม่ำเสมอ
- ลืมทานเพียง 10% (เช่น 3 วันต่อเดือน) อาจส่งผลให้ยาลดประสิทธิภาพ
- การกลายพันธุ์ของเซลล์ เช่น T315I
- ปฏิกิริยาระหว่างยา อาหาร ผลไม้
- ความไม่เข้าใจของผู้เกี่ยวข้องในระบบสิทธิ์
🔁 สรุปลำดับการรักษา
ลำดับ | ชื่อยา | รุ่น | สิทธิ์ที่เบิกได้ |
---|---|---|---|
1 | Imatinib | First-gen TKI | ทุกสิทธิ์ |
2 | Nilotinib | Second-gen TKI | ทุกสิทธิ์ |
3 | Dasatinib | Second-gen TKI | ทุกสิทธิ์ |
4 | Ponatinib | Third-gen TKI | เฉพาะข้าราชการ |
5 | Asciminib | Allosteric Inhibitor | ยังไม่เข้าไทย |
🙏 เบื้องหลังความสำเร็จ
วันนี้ผู้ป่วย CML ทุกสิทธิ์สามารถเข้าถึงยา 3 ตัวแรกได้แล้ว
แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ มี “คนกลุ่มหนึ่ง” ที่เสียสละและต่อสู้อย่างเงียบๆ
ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ป่วยในวันนี้เท่านั้นที่ควรรู้ แต่ผู้เกี่ยวข้องในระบบสาธารณสุขก็ควรตระหนักถึงความยากลำบากในอดีต
💬 ข้อคิดส่งท้าย
“การรักษา CML เปลี่ยนจากโรคที่รอวันตาย เป็นโรคเรื้อรังที่ควบคุมได้ หากมีวินัยในการรักษา และได้รับการสนับสนุนจากระบบอย่างเป็นธรรม”
***อ้างอิงจากเพจเฟสบุ๊คของ ศ. พญ. แสงสุรีย์ จูฑา***